[คู่มือน้องใหม่] ทำงานวันแรก ควรเตรียมตัวอย่างไร ไปดูกัน

เมื่อผ่านด่านการสัมภาษณ์งานมาแล้ว หลังจากนั้น น้องใหม่ที่นั่งรอผลสัมภาษณ์อยู่ หากได้ตอบรับเข้าทำงาน สิ่งถัดมาที่จะเกิดขึ้นก็คือการเริ่มชีวิตการทำงานนั่นเอง ซึ่งหลายคนอาจจะกังวลว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง โดยเฉพาะในการทำงานวันแรกนั้น เราต้องทำตัวอย่างไร ที่ Office จะมีบรรยากาศอย่างไร เพื่อนรวมงานมีใครบ้าง งานจะกดดันเกินไปไหม ซึ่งเราอยากจะบอกว่า ทุกคนควรทำใจให้สบาย ไม่ต้องเครียดและกังวลในวันแรกที่เข้าไปทำงาน โดยในวันนี้ เราจะมาแนะนำวิธีเตรียมตัวสำหรับพนักงานใหม่ในวันแรก ณ ที่ทำงานกันครับ

ก่อนหน้าจะเข้าไปทำงานได้นั้น แน่นอนว่าเราต้องผ่านขั้นตอนการสัมภาษณ์ โดยเราอาจจะได้รับรู้ข้อมูลเพียงบางส่วน เช่น ที่ตั้งของออฟฟิศ การเดินทางมายังสำนักงาน ขอบข่ายงานของตำแหน่งที่สมัคร และกฎระเบียบในการทำงานที่นี่ ซึ่งก็ยังไม่ครอบคลุมทั้งหมดที่เราควรรู้ หากเราผ่านขั้นตอนการสัมภาษณ์และได้เข้าทำงานแล้ว ก็เป็นสัญญาณในการที่เราควรจะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานและองค์กรที่เรากำลังจะเข้าไปทำงาน ฟังดูแล้วอาจจะเป็นเรื่องยากที่จะเรียนรู้ทั้งหมดในระยะเวลาสั้นๆ ในความเป็นจริงแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยากมากนัก ในช่วงแรกนั้น ก็เป็นช่วงเวลาที่เราควรจะเก็บเกี่ยวความรู้ให้มากที่สุด รวมถึงเรียนรู้ เปิดใจ ทำความเข้าใจกับองค์กรและเพื่อนร่วมงาน เพื่อให้เราสามารถทำงานที่นี่ได้อย่างมีความสุขนั่นเองครับ

ทำงานวันแรก เตรียมตัวอย่างไรดี?

สำหรับการทำงานวันแรกนั้น สิ่งที่เราควรเตรียมตัวหลักๆ ก็จะมีเรื่องของการเตรียมสภาพจิตใจให้พร้อมพบปะเพื่อนร่วมงาน การเตรียมตัวในเรื่องของตำแหน่งงาน และการเตรียมตัวในเรื่องของระเบียบต่างๆ ของบริษัท ซึ่งมีรายละเอียดทั้งหมด 10 ข้อ ดังนี้ครับ

1. ไปถึงที่ทำงานก่อนเวลา

เป็น First Impression ของเรากับองค์กรเลยก็ว่าได้ สำหรับการทำงานวันแรก ซึ่งควรอย่างยิ่งที่จะไปถึงก่อนเวลา อย่างน้อย 15 นาที เพื่อให้เวลาฝ่ายบุคคลและเราเองได้เตรียมตัวเพื่อเข้าทำงาน เช่น เราจะได้จัดระเบียบร่างกายให้เรียบร้อย ฝ่ายบุคคลจะได้มีเวลาไปเตรียมเอกสารสัญญางานต่างๆ ให้กับเราได้ นอกจากนั้นการไปถึงก่อนเวลายังสะท้อนอะไรหลายอย่างของเราด้วย เช่น ความขยัน ความตรงต่อเวลา

2. ศึกษากฎระเบียบของที่ทำงานให้เข้าใจ

ในช่วงแรกของการเข้าทำงานนั้น องค์กรส่วนมากจะมีการแนะนำกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆ ขององค์กรให้กับเรา ซึ่งเราก็ต้องทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเรื่องเวลาการเข้างานและเลิกงาน ที่ในช่วงแรกเราควรตรงต่อเวลาทุกวัน และการแต่งกายที่เราควรจะแต่งตามกฎของบริษัทไปก่อน นอกจากนั้นก็ยังมีส่วนอื่นๆ อีก เช่น เวลาพักรับประทานอาหารกลางวัน แผนก หน่วยงานที่เราต้องไปสังกัด โครงสร้างองค์กร ขอบข่ายหน้าที่ของเรา เป็นต้น และก่อนจะเซ็นสัญญาเข้าทำงาน ให้อ่านข้อความทั้งหมดอย่างละเอียดก่อน ซึ่งหากเรามีข้อสงสัยใดๆ ให้สอบถามกับฝ่ายบุคคลได้เลย

3. เรียนรู้งาน และสอบถามเพื่อความเข้าใจ

เมื่อเราผ่านขั้นตอนต่างๆ แล้ว ได้นั่งยังโต๊ะทำงานและพร้อมเริ่มงานแล้ว เราควรจะสอบถามเรื่องงานและเรียนรู้จากรุ่นพี่ (หรือบางครั้งอาจจะเป็นเพื่อน) ที่มีตำแหน่งงานใกล้เคียงกันกับเรา และตั้งใจเก็บเกี่ยวความรู้และทักษะที่เกี่ยวข้องกับเราให้มากที่สุด โดยในช่วงแรกถ้ามีข้อสงสัยอะไร ให้สอบถามเพื่อนร่วมงานเพื่อที่เราจะทำงานได้อย่างถูกต้องตามหลักขององค์กร

4. เรียนรู้สังคมในออฟฟิศเพื่อปรับตัว

สังคมในออฟฟิศนั้นเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะแทบจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่บอกเราได้ว่าเราควรอยู่หรือไปจากองค์กรนี้ ในช่วงแรกที่เราเข้ามาทำงานนั้น อาจจะยังรู้อะไรไม่มาก ให้เรียนรู้ด้วยการสังเกตุไปสักพัก เราก็จะพอมองออกว่าสังคมในที่นี้เป็นแบบไหน ทั้งนี้ทั้งนั้น เน้นเอาใจเขามาใส่ใจเราไว้ จะดีที่สุด

5. ขยันและตั้งใจทำงาน

Performance เป็นหนึ่งในตัววัดว่าเราจะอยู่หรือไปในตำแหน่งหรือสายงานนี้ ซึ่งแน่นอนว่าเราควรทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่ ขยัน และตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา หากเราตั้งใจและขยันทำงานแล้ว คำว่าผ่านโปรจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป 

6. รู้จักการวางตัวที่ดี

เมื่อเราเข้าไปทำงานช่วงแรก หลายคนจะยังไม่รู้จักนิสัยของเรามากนัก หากเรารู้จักวางตัวให้เหมาะสมกับทุกคน เคารพเจ้านาย รุ่นพี่ ไม่ทำตัวกระโตกกระตากจนเกินไปตั้งแต่ช่วงแรก และค่อยปรับนิสัยหรือปรับพฤติกรรมให้เข้ากับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ เราก็จะมีความสุขกับการที่นี่ และสามารถเข้ากับผู้อื่นได้นั่นเองครับ

7. เป็นมิตรกับทุกคน

ความเป็นมิตรนั้นเป็นสิ่งดีเสมอ เพราะจะทำให้เรามีเพื่อนและส่งต่อเรื่องราวดีๆ หากันเสมอ ในช่วงแรกเราควรยิ้มทักทายหรือพูดทักทายสั้นๆ กับเพื่อนร่วมงาน ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นดีๆ ที่จะช่วยผูกมิตรระหว่างเรากับเพื่อนร่วมงานได้ครับ

8. มองโลกในแง่ดี

หากเรายังไม่รู้จักนิสัยของใครสักคนดีพอ อย่าเพิ่งตัดสินว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเป็นการทำไม่ดีกับเราเอง เพราะบางครั้งเราต้องทำความเข้าใจว่า แต่ละคนนั้นมีพื้นฐานที่มาต่างกัน การกระทำก็ย่อมแตกต่างกันออกไป ให้เรามองโลกในแง่ดีและคิดบวกเข้าไว้ จะได้ไม่ต้องคอยระแวงว่าใครจะทำอะไรเราหรือเปล่านั่นเองครับ นอกจากนั้นยังจะช่วยลบอคติที่เกิดขึ้นในใจเราอีกด้วย

9. เรียนรู้งานจากประสบการณ์ของคนอื่น

ในช่วงแรกที่ทำงานนั้น การเรียนรู้งานจากผู้สอนงานไว้ก่อนจะดีที่สุด เพราะบางสิ่งที่อาจจะทำให้เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ อาจจะเป็นแนวทางที่ใช่ในองค์กรนี้ ดังนั้นเราควรเรียนรู้งานมาก่อน และในส่วนที่เรารู้สึกขัดแย้งหรือไม่ถูกใจ ให้เราเก็บเอาไว้ และค่อยๆ แก้ไขทีละเล็กละน้อยในอนาคต หรือสอบถามจากผู้มีประสบการณ์ เพื่อให้เรารู้ว่าวิธีที่เรามองว่าดีนั้น สามารถใช้แก้ไขปัญหา หรือมีข้อดีข้อเสีย แตกต่างจากเดิมอย่างไรบ้าง

10. เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม

ในวันแรกที่ทำงาน เราควรจะเตรียมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานเบื้องต้นไปให้พร้อม ซึ่งในส่วนนี้ก็จะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและหน้าที่ แต่หลักๆ ที่ควรพกมาก็ควรที่จะเป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คสักเครื่อง สมุดจด ปากกา เอกสารสำคัญส่วนตัว และเมื่อเราทำงานไปสักพักแล้ว ค่อยเพิ่มสิ่งของที่เราคิดว่าสำคัญกับการทำงาน หรือของตกแต่งเล็กน้อยให้โต๊ะทำงานเรามีสีสันเสียบ้าง

ในวันแรกที่เราเข้าทำงาน สิ่งที่เราควรทำก็คือเปิดใจคุยกับผู้คนใหม่ๆ และผูกมิตรกับเพื่อนร่วมงานไว้ก่อน เพราะจะช่วยสร้างความสบายใจให้ทั้งกับเราและเพื่อนร่วมงานในระยะยาว นอกจากนั้น ในเรื่องของงาน เมื่อเราได้เรียนรู้งานไปบางส่วนแล้ว เราก็ควรจะเริ่มวางแผนงานว่าต้องทำอะไรบ้างในแต่ละวัน โดยอิงกับ Performance ที่ทีม เพื่อนร่วมงาน หรือองค์กรกำหนด นำมาปรับให้เหมาะสมกับตัวเราเอง และไม่ขัดกับหลักการทำงานของเพื่อนร่วมทีมและองค์กร เพื่อให้การทำงานในช่วงแรกของเรานั้นเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะเมื่อได้เข้าทำงานแล้ว ยังมีสิ่งที่เราต้องผ่านไปอีก นั่นก็คือ “การผ่านโปร” หรือ การผ่านการทดลองงาน” นั่นเองครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก  JobsDB